
ballstep2 ข่าวกีฬาฮอตฮิตสุดๆ หลังสร้างความประทับใจด้วยการลงมากดประตูชัยช่วยให้อังกฤษเชือดเวลส์แบบหวุดหวิด 2-1 ฉับพลันทันใดนั้นชื่อของ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ก็กลับมาอยู่ในวงโคจรอีกครั้งแม้จะประสบปัญหาอาการบาดเจ็บออดๆแอดๆตลอดทั้งฤดูกาล ทว่ายามใดที่ฟิตเต็มร้อยพร้อมได้ลงสนาม ปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่า ยอดดาวยิงลิเวอร์พูลคือหนึ่งในแข้ง “แมตช์วินเนอร์” หรือ “ตัวตัดสินเกม” ที่ทุกทีมนั้นควรจะมีฟอร์มการเล่นในเกมที่แล้ว ทำให้วันนี้สื่ออังกฤษต่างพร้อมใจหนุนให้เจ้าตัวลงฟาดแข้งในแมตช์ถัดไป ทว่าคำถามที่ตามมาพร้อมกับระเบิดเวลาที่มีเพียงรอย ฮอดจ์สัน เท่านั้นที่จะรู้คำตอบนั่นก็คือ
แล้วจะเอา “แข้งจอมเซิ้ง” นี้ไปไว้ตรงไหน !?
กับแดนหน้าแม้ แฮร์รี่ เคน จะเกิดอาการล้า และฟอร์มตกแบบกู่ไม่กลับ ทว่าก็เป็นที่คาดกันครับว่า น่าจะเป็น เจมี่ วาร์ดี้ ที่น่าได้เสียบแทน ไอครั้นจะปรับระบบเล่นหน้าคู่เชื่อเหลือเกินครับว่า ยี่ห้อ รอย ฮอดจ์สันซึ่งหัวรั้นมาแต่ไหนแต่ไร ปู่แกคงไม่มีทางปรับระบบแท็คติกได้ง่ายๆดังนั้น ในเมื่อแดนหน้าที่ว่างเต็ม หน้าต่ำหรือกระทั่งกึ่งเพลย์เมคเกอร์ก็มี เวย์น รูนี่ย์ คอยหนุนอยู่ ความซวยจึงมาตกอยู่กับ “ราฮีม สเตอร์ลิ่ง” แบบช่วยไม่ได้ในตอนนี้เริ่มมีเสียงเรียกร้องให้แข้งสำรองจากแมนฯ ซิตี้โดนดร็อปมาอยู่ข้างสนามบ้างแล้ว จากฟอร์มการเล่นที่ไม่เอาอ่าว พร้อมกับมีนักวิจารณ์บางสำนักที่เสนอไอเดียว่า ในเมื่อปีกธรรมชาติแท้ๆฟอร์มสุดแย่ แข้งสำรองอย่าง เจมส์ มิลเนอร์ ก็ไม่ใช่ดาวเตะที่มีความวูบวาบอะไรมากมาย แล้วทำไมไม่ลองจับ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่มีความคล่องตัวไปเล่นตำแหน่งปีกดูบ้างเรื่องนี้ก็มีแฟนบอลบางคนที่คัดค้านครับว่า ทำแบบนี้ไม่ต่างกับเสียของ ถึงอย่างไรปีกธรรมชาติก็ดีกว่าอยู่วันยังค่ำ ขณะเดียวกันกลุ่มด้านขวาจัดก็โต้กลับเช่นกันว่า ในเมื่อไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว แล้วทำไมไม่ลองให้มันรู้แล้วรู้รอดไป เกมล่าสุด ดาวยิงจอมเดี้ยงก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เจ้าตัวสามารถทดแทนได้วันนี้เพื่อเป็นการตอกย้ำแนวคิดดังกล่าว เราจะลองมาดีเบตโดยใช้สถิติจาก ‘PSD’ (Pro Soccer Development) กันครับว่า ระหว่าง สเตอร์ริดจ์ Vs สเตอร์ลิ่ง ใครกันหนอที่คู่ควรกับสิบเอ็ดตัวจริง !?
การหาโอกาสยิง
ตลอด 2 เกมที่ผ่านมาซึ่งได้รับโอกาสลงสนาม น่าเหลือเชื่อครับว่า ปีกค่าตัวแพงจากแมนฯ ซิตี้ จะมีโอกาสสับยิงแค่ครั้งเดียว อีกทั้งยังเป็นการง้างเท้าที่น่าผิดหวังจากช็อตที่ อดัม ลัลลาน่า อุตส่าห์ปาดมาให้เจ้าตัวสอดมายิงในกรอบเขตโทษโล่งๆ ทว่ากลับดีดข้ามคานไปอย่างน่าเสียดายช่างแตกต่างกับ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่แม้จะมีเวลาแค่ 45 นาทีในเกมล่าสุด แต่กลับหาโอกาสยิงได้ถึง 6 ครั้ง! แบ่งเป็นในกรอบ 2 หน, นอกกรอบอีก 3 และ ได้โหม่งเน้นๆอีกหนึ่งที ก็อาจจะใช่ ดูผิวเผินโอกาสของเจ้าตัวนั้นค่อนข้างเปลือง ประตูชัยในเกมล่าสุดก็ไม่ได้ซัลโวดีเด่เป็น เวย์น ฮันเนสซี่ย์ ซะมากกว่าที่รับกระฉอกไปเองแต่ ‘การเริ่มต้นลงมือ ย่อมดีกว่าไม่ได้ทำอะไร’ มองอีกในนัยหนึ่งในความสิ้นเปลืองของ สเตอร์ริดจ์ ก็เป็นการตอกย้ำให้เราได้เห็นครับว่า เจ้าตัวสร้างสรรค์โอกาสได้เจ๋งเป้งขนาดไหน กระทั่ง แฮร์รี่ เคน ที่ได้ลงตัวจริงแบบเน้นๆในสองเกมแรกยังหาโอกาสยิงไม่ได้ซักทีเลยด้วยซ้ำ!
จากสถิติของ “PSD” ก็เป็นที่ชัดเจนจะแจ้งอีกแล้วครับว่า หัวหอกจากลิเวอร์พูลนั้นเหนือกว่าทุกกระบวนท่า ในการดวลเดี่ยวตัวต่อตัวกับคู่ต่อสู้นั้น สเตอร์ริดจ์สามารถเอาตัวรอดผ่านคู่แข่งได้ถึง 7 จาก 8 ครั้ง ช่างแตกต่างกับ สเตอร์ลิ่ง ที่เอาชนะได้แค่หนเดียวใน 6 ครั้งที่ได้ดวลกับคู่ต่อกรแบบตัวต่อตัวนอกจากนี้แข้งร่างจิ๋วแม้จะเลี้ยงบอลสำเร็จถึง 4 จาก 5 ครั้งทว่าเมื่อเทียบกับ สเตอร์ริดจ์ ที่แม้จะได้ลงเล่นแค่ 45 นาทีแต่ก็คนละเรื่อง มีรายงานว่า ดาวเตะลิเวอร์พูลเลี้ยงบอลไป 11 หน และมีเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่โดนคู่แข่งสกัด หรือดักทางได้ นอกนั้นผ่านฉลุยเรียบวุธ
การมีส่วนร่วม
ballstep2 ข่าวกีฬาฮอตฮิตสุดๆ ยังคงเป็น สเตอร์ริดจ์ ที่เจ๋งเป้งกว่าเช่นเคย แข้งตัวเก่งมีส่วนร่วมกับบอลถึง 30 ครั้งนับเฉพาะครึ่งเวลาหลัง แตกต่างกับ สเตอร์ลิ่ง ที่ตลอด 2 เกมที่ผ่านมีส่วนร่วมในเกมรุกแค่ 17 ครั้งบางทีแค่นี้อาจยังไม่หนำใจ มีรายงานเพิ่มเติมว่า สเตอร์ริดจ์จับบอลได้ 23 หนจาก 25 ครั้งที่เพื่อนจ่ายบอลมาให้ เทียบกับสเตอร์ลิ่งแล้วคนละเรื่อง เมื่อเจ้าตัวได้รับบอลจากเพื่อนเพียง 12 ครั้งอีกทั้งยังจับบอลสำเร็จอีก 10 ที
การจ่ายบอล
หากมองเพียงสถิติเพียวๆ เราอาจกล่าวได้ว่า สเตอร์ริดจ์ มีอิทธิพลกับเพื่อนร่วมทีมเหลือเกิน! ดาวเตะจอมลีลาจ่ายบอลสำเร็จ 18 จาก 22 ครั้ง คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้กว่า 82% ด้าน สเตอร์ลิ่ง ด้วยการที่ได้รับบอลจากเพื่อนน้อยทำให้เจ้าตัวจ่ายบอลให้มิตรสหายไปเพียง 12 ครั้งและสำเร็จเพียง 8 หนนอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์ว่า สำหรับ สเตอร์ริดจ์ แม้จะจ่ายบอลไป 18 ครั้งแต่ก็ไม่ได้เป็นการป้อนบอลให้เพื่อนแบบมั่วๆซั่วๆ เนื่องจากส่วนใหญ่พื้นที่ซึ่งเจ้าตัววางบอลไปนั้นจะเป็นทางกราบทางสองข้างมากกว่า เพื่อให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ และ แดนนี่ โรส เติมเกมขึ้นมาบุก ผิดกับ สเตอร์ลิ่ง ที่มีรายงานว่าพื้นที่ซึ่งเจ้าตัวจ่ายบอลมากสุดคือ การคืนหลัง ซึ่งอาจกล่าวได้ครับว่า แทบไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้เพื่อนร่วมทีมเลยและนี่ก็คือสถิติเพียงคร่าวๆ ที่ความจริงไม่ต้องมองตัวเลข หากแต่ใช้ใจไตร่ตรองดูก็พอจะทราบว่า สเตอร์ริดจ์ นั้นกินขาดกว่า สเตอร์ลิ่ง ขนาดไหน ที่เหลือก็อยู่ที่ “ปู่รอย” แล้วล่ะครับว่าจะตัดสินใจเช่นไรหากยังสุดอินดี้ พร้อมไม่สนใจเสียงนกเสียงกายืนกรานยึดระบบเดิมอีกแฟนบอล “สิงโตคำราม” ก็เตรียมซับน้ำตาแต่เนิ่นๆกันได้เลย!
วิธีเล่น Ballstep2 “เดอะ รอยัล” เรดดิ้ง สโมสรฟุตบอลในลีกแชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ คว้า ยาป สตัม อดีตกองหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คุมทัพ หวังเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหน้าเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียน “บิ๊กเสือ” สัมฤทธิ์ ธนกาญจนสุทธิ์ เจ้าของทีมคนไทย
โดยเจ้าของทีมเรดดิ้ง เผยว่า ยาป สตัม ที่ทำงานเป็นผู้ช่วยโค้ชของ แฟร้งค์ เดอร์ บัวร์ ในทีม อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม มาถึง 4 ปี มีประสปการณ์มากพอสมควร และจากที่ได้คุยเรื่องแผนการทำทีมแล้ว เขาแสดงให้เห็นว่า มีแท็คติก และเทคนิคการเล่นที่ดี มีแนวทางการพัฒนาสโมสรที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ อดีตกองหลังชาวดัตช์ วัย 43 ปี ยังมีบุคลิกเป็นผู้นำ มีความมุ่งมั่นทั้งในและนอกสนาม ซึ่งเรดดิ้ง ต้องการโค้ชในลักษณะนี้เพื่อกระตุ้นนักเตะให้รีดพลังออกมา
สมัคร Ballstep2 “เดอะ รอยัลส์” เรดดิ้ง ทีมในแชมเปี้ยนชิพ คว้า ยาป สตัม อดีตดาวเตะปีศาจแดง คุมทัพเพื่อตีตั๋วไปพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลหน้าเป็นที่เรียบร้อย โดย “บิ๊กเสือ” สัมฤทธิ์ ธนกาญจนสุทธิ์ เจ้าของคนไทย ชูบุคลิกผู้นำที่มาดมั่นไม่วอกแวกของอดีตโค้ชอาแจ็กซ์จะนำความสำเร็จมาสู่เรดดิ้ง เรดดิ้ง 1 ใน 3 สโมสรในอังกฤษที่มีเจ้าของเป็นคนไทย ได้เตรียมตัวสำหรับฤดูกาลใหม่ในศึกแชมเปี้ยนชิพ 2016-17 ด้วยการคว้า ยาป สตัม อดีตกองหลังดาวดังของแมนฯ ยูไนเต็ด มาคุมทัพเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่มีข่าวมาคุยกับทางเรดดิ้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย “บิ๊กเสือ” สัมฤทธิ์ ธนกาญจนสุทธิ์ ซีอีโอของ “เดอะ รอยัลส์” เปิดเผยว่าสโมสรเรดดิ้ง มีแนวทางในการทำทีมคล้ายๆกับสโมสรในฮอลแลนด์ในเรื่องของการปั้นดาวรุ่ง โดยเฉพาะ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ซึ่งทาง ยาป สตัม นั้นก็ทำงานทางด้านโค้ช เป็นผู้ช่วยของแฟร้งค์ เดอ บัวร์ ในอาแจ็กซ์มาถึง 4 ปี จนได้ประสบการณ์มาพอสมควร
และจากที่ได้คุยเรื่องแผนการทำทีมแล้ว เขาก็แสดงให้เห็นว่า มีแท็คติก เทคนิคการเล่นที่ดี มีแนวทางการพัฒนาสโมสรที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้เขายังมีบุคลิกที่เป็นผู้นำ มีความมุ่งมั่นทั้งในและนอกสนาม ซึ่งเราต้องการโค้ชในลักษณะนี้เพื่อกระตุ้นนักเตะให้รีดพลังออกมา ตนได้คุยกับโค้ชกว่า 10 คนเพื่องานนี้ ก่อนจะสรุปว่าทาง สตัม เหมาะสมที่สุด สำหรับ สตัม วัย 43 ปี จะทำการเปิดตัวกับสโมสรเรดดิ้งในวันจันทร์ที่ 13 มิ.ย.นี้ ที่มาเดจสกี้ สเตเดี้ยม rz-afrisem.com